กรมสรรพากรประกาศ โครงการ ''Easy E-Receipt 2.0'' ให้ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการระหว่างวันที่ 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 โดยร้านค้าจะต้องออกเอกสาร e-Tax Invoice และ e-Receipt โดยมีรายละเอียดการออกเอกสารตามที่สรรพากรกำหนดดังนี้ :
เงื่อนไขการออกเอกสารเพื่อการลดหย่อนภาษีอย่างถูกต้อง
1. รายละเอียดผู้ใช้สิทธิ
- เป็นผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคล) ระบุเลขบัตรประชาชน หรือเลขผู้เสียภาษี (13หลัก) ชื่อและ ที่อยู่ ครบถ้วน ถูกต้อง
2. ระยะเวลาใช้สิทธิ
- ซื้อสินค้า/บริการในประเทศ ระหว่างวันที่ 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 กรณีเป็นงานบริการจะต้องมีระยะเวลาการให้บริการเริ่มต้นและสิ้นสุดในช่วงโครงการเท่านั้น
3. เอกสารประกอบการลดหย่อน
3.1 ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) /มี VAT
- เมื่อซื้อสินค้าและบริการทุกประเภทที่มี VAT และ ที่ไม่อยู่ในกลุ่มสินค้าห้ามลดหย่อน
- ผู้ซื้อลดหย่อนได้สูงสด 30,000 บาท
3.2 ใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) (ไม่มี VAT)
- เมื่อสินค้าที่ขายเป็น OTOP โดยในเอกสารต้องระบุคำว่า ''OTOP'' ที่รายการสินค้าหย่อน
- เมื่อซื้อสินค้าจากร้านค้า วิสาหกิจชุมชน หรือ ธุรกิจเพื่อสังคม และ ระบุข้อความ ''วิสาหกิจชุมช'' หรือ ''ธุรกิจเพื่อสังคม'' ในส่วนของชื่อร้านค้า หรือ ต่อท้ายชื่อ (สินค้าบริการไม่อยู่ในกลุ่มสินค้าห้ามลดหย่อนลดหย่อน)
- ผู้ซื้อลดหย่อนได้สูงสุด 50,000 บาท แต่เมื่อรวมข้อที่ 3.1 และ 3.2 แล้วยอดรวมสุทธิการลดหย่อนไม่เกิน 50,000 บาท
4. ข้อกำหนดใหม่ที่เพิ่มเติมจากปี 2567
- เอกสารต้องลงวันที่ระหว่างวันที่ 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 เท่านั้น
- ถ้ากรณีร้านค้าออกเอกสารผิดสามารถยกเลิกเอกสารฉบับเดิมและออกเอกสารขึ้นใหม่แทนได้โดยเอกสารฉบับใหม่ ร้านค้าต้องออกเอกสารต้องลงวันที่ระหว่างวันที่ 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 เท่านั้นด้วยเช่นกัน
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://etax.one.th/blog/Easy-E-Receipt
ประกาศจากทางกรมสรรพากร